ขอทราบข้อมูล เกี่ยวกับข้าวไรซ์เบอร์รี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นข้าวที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง ข้าวหอมนิล กับ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ร่วมกับ คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่ได้ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ จนได้ลักษณะข้าวที่มีเมล็ดสีม่วงเข้มรูปร่างเมล็ดเรียวยาว สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้ผลผลิตต่อไร่ระดับปานกลางประมาณ 500 กิโลกรัม/ไร่ มีความสูง 105-110 ซม. อายุเก็บเกี่ยว 130 วัน มีความต้านทานต่อโรคไหม้แต่ไม่ต้านทานโรคหลาว ซึ่งโรคหลาวเป็นเชื้อราที่ติดอยู่กับเมล็ดพันธุ์ ถ้านำไปปลูกจะเกิดความเสียหาย ในการเพาะปลูกจึงควรเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ทุกรอบการปลูก ข้าวพันธุ์นี้มีข้อจำกัด คือ ตอบสนองต่อการปลูกแบบอินทรีย์ สภาพอากาศในบริเวณที่ปลูกจะต้องเย็น เพื่อสร้างสีเมล็ด
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีจุดเด่นจากคุณสมบัติด้านโภชนาการที่ดีเยี่ยม มีสารต่าง ๆ ที่มีคุณประโยชน์ อาทิ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน สังกะสี โฟเลต มีดัชนีน้ำตาลต่ำถึงปานกลาง และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ดังนั้นมั่นใจได้ว่าข้าวพันธุ์นี้ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มอายุ เช่น ผู้สูงอายุ จะช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิต ชะลอความแก่ บำรุงสายตาและระบบประสาท
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และโรคอ้วนสามารถเปลี่ยนมารับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ช่วยควบคุมน้ำตาลและน้ำหนักได้ เนื่องจากข้าวไรซ์เบอร์รี่มีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวทั่วไป รวมถึงสตรีมีครรภ์ จะช่วยให้บุตรในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง และสามารถป้องกันโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เพราะข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสารโฟเลต จะช่วยให้มารดาควบคุมน้ำหนักเพื่อไม่เกิดครรภ์เป็นพิษ และมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งหญิงมีครรภ์ต้องการมากกว่าคนปกติ และผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กหากรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นประจำแล้ว ก็จะได้สารอาหารโดยเฉพาะธาตุเหล็กธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยในการบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
อ้างอิงที่มา : ข้าวเศรษฐกิจ รหัส 6/64/2558